วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

บันทึก ฅ.ฅนปลูกไผ่ : ฉบับที่ 2

สัมบายดีลำพูนครับ
วันนี้งานไม่เข้าว่างทั้งวัน เลยแอบไปเที่ยวชมงานแปรรูปไม้หลากหลายชนิดที่บ้านถวาย (คงเคยได้ยินบ้างนะครับ) ออกเดินทาง 9 โมงเช้า ระยะทางห่างจากที่พักก็ประมาณ 40 กม. ระหว่างทางก็เจอขบวนแห่ลูกแก้ว (เป็นการแห่นาคที่เป็นเด็ก) ก็ประมาณ 50 นาคได้ ขี่ม้าทั้งหมด ตลกดีม้าทุกตัวจะเต้นรำไปด้วย ตามจังหวะเพลงที่เปิดแห่ไปเรื่อย หลังจากนั้นก็มุ่งสู่หมู่บ้านถวาย ซึ่งระหว่างทางที่เข้าไปหมู่บ้านจะมีร้านที่นำผลงานจากการแปรรูปไม้หลากชนิดมาโชว์กัน มันสุดยอดไปเลยครับเศษไม้ที่เราคิดว่ามันมีค่าแค่ทำฟืน หรือเผาถ่านเพื่อหุงต้มเท่านั้น แต่มันสามารถแปลงเป็นมูลค่าหลักร้อยบาทขึ้นได้ ยิ่งก้าวเข้าไปยิ่งตื่นเต้นมากๆ สำหรับแหล่งโชว์งานฝีมือนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ซอย ตาม Class ซึ่งซอยแรกที่เข้าไป ก็เป็นแบบพื้นฐานสามารถถ่ายรูปได้ แต่ก็มีผลงานที่หลากหลายสุดยอดเหมือนกัน ดังรูปที่แนบมาด้วยครับ



















สำหรับซอยที่ 2 ไม่สามารถนำภาพมาให้ชมได้ เพราะทุกที่เขาติดป้าย No Photo (หน่อ-พอ-โต) ไม่มั่นใจว่าอ่านถูกหรือเปล่า แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ จึงเดินเข้าไปถามเจ้าของร้าน จึงถึงบางอ้อว่ามันแปลว่าอะไร มันแปลว่าห้ามถ่ายรูปนี่เอง ถ้ามาครั้งหน้าจะได้เอากล้อง VDO มาถ่ายแทน รอโอกาสหน้าน๊ะครับ แต่ขอบอกว่าซอยนี้ขั้นเทพสุดๆ มีแต่ฝรั่งมาติดต่อซื้อ อนาคตเป็นธุรกิจระดับโลกแน่ๆ ที่เอารูปมาให้ชมนี้มันคนละชั้นกันมากๆ ถ้าไม่เชื่อว่างๆ (+กะตังค์) แล้วมาเดินดู เออเอากล้อง VDO มาด้วยน๊ะ (ถ้าจะดีก็ศึกษากฎหมายมาด้วยก็ดี อิ อิ อิ)

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านเรื่องบ้าๆ อีกครั้งครับ (คำเตือน : กรุณาอย่าอ่านเกินวันละ 2 รอบ)

รักและคิดถึงทุกคนครับ

บักเอี่ยวโฟกัส
ฅ.ฅนอาสา & ฅ.ฅนปลูกไผ่
2 เมษายน 2553

บันทึก ฅ.ฅนปลูกไผ่ : ฉบับที่ 1

วันนี้ผมได้เดินทางไปติดต่องานที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ระยะทางห่างจากที่พัก 100 กว่ากิโลเมตร ไปเห็นชาวเขากินช้างที่เดียว 2 ตัว ก่อนที่จะกินผมมองไปเห็นช้างสองตัวหันหน้าใส่กัน ดูแล้วรู้สึกเศร้ามากๆ แต่ก็ต้องทำใจน๊ะมันเป็นเวรกรรม (แหมกินช้างไม่ยอมใส่น้ำแข็งด้วย)กลับมาถึงที่พักก็ปาไป 4 โมงเย็น ก็เลยจับกล้องถ่ายรูปเดินถ่ายรอบๆ ที่พักมาให้ดูเลย ชมเอาน๊ะ






















-


ถ้าถามหัวใจตัวเองในตอนนี้รู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ กับความฝันที่เดินทางเข้ามาใกล้เต็มที หลังจากที่เราจินตนาการตอนที่อยู่บริษัทนั้นมันช่างเรือนรางสะเหลือเกิน หัวใจก็แป๊วเหมือนกันกับวันแรกที่ก้าวออกจากบริษัท ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี มีอะไรที่ต้องทำเยอะ มีอะไรที่ต้องค้นคว้าและศึกษาอีกเยอะ โอ๊ยปวดหัวมากๆ แต่แล้วเมื่อเราได้ก้าวย่างเข้ามาในศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ มันรู้สึกว่าสิ่งที่เราฝันไว้ 70 % มันถูกสร้างขึ้นรอเราไว้แล้ว เพียงแค่เรานำไปสานต่อเท่านั้น ผมขอสัญญาว่า ภายในระยะเวลา 3-5 ปีนี้ ผมจะสานฝันตัวเองให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน “ การท่องเที่ยวโฮมสเตร์ เชิงเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ” แต่ตอนนี้ผมขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เชี่ยวชาญก่อนน๊ะครับ

รักและคิดถึงทุกคนครับ

บักเอี่ยวโฟกัส
ฅ.ฅนอาสา & ฅ.ฅนปลูกไผ่
1 เมษายน 2553